เริ่มต้นหาเงินกับ Clickbank

สวัดดีเพื่อนๆ ผมได้มีโอกาสที่จะศึกษาถึงวิธีการหาเงินบนอินเตอรฺเน็ตโดยเฉพาะ Affiliate ที่ชื่อว่า "Clickbank" และได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำมากกว่า 3 ปี โดยใช้วิธีการขายสินค้าของ Clickbank ในแบบของผมเอง ซึ่งก็สร้างรายได้มากกว่าร้อยเหรียญใน 1 เว็บไซต์

ซึ่งวิธีการนั้นไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด หากคุณยังไม่มีประสบการณ์ในการหาเงินออนไลน์ หรือความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์ ผมเชื่อว่านี่จะเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเป็นอย่างดี โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนในการจดเว็บไซต์หรือเช่าโฮสติ้งให้เปลืองเงินแต่อย่างใด

ผมจึงอยากแบ่งปันวิธีการเพื่อเพื่อนๆจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการหาเงินออนไลน์ต่อๆไป

เรามาเริ่มต้นเข้าสู่วิธีการหาเงินจาก Clickbank กันเลย

• หาสินค้าสำหรับโปรโมท Clickbank
• สร้างเว็บไซต์ให้กับ Clickbank
• ปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับการทำ Clickbank
• โปรโมท Clickbank ยังไงให้ขายได้

บทความที่คุณอาจสนใจ :

• หาเงินจาก Prosperent ด้วยบล็อกฟรี
• วิธีหาเงินที่ง่ายๆ วันละ $100 ผ่านเว็บครอบลิงค์ Adf.ly

ความแตกต่างระหว่าง Buyer Keyword กับ Non-Buyer Keyword

คุณเคยไหมบางครั้งที่การโปรโมทสินค้าของคุณมีผู้เข้าชมมากมาย แต่ทำไมถึงไม่สามารถขายสินค้าได้เลยแม้ชิ้นเดียว สาเหตุเพราะอะไร เราถึงไม่สามารถจบการขายได้

การใช้ Keyword นั้นมีความสำคัญมากกับการทำเว็บไซต์ หากเราเลือกใช้ Keyword ที่ผิดเป้าหมาย เราก็จะไม่ได้ประโยชน์จากการใช้ Keyword เลย

แล้ว Keyword ที่จะสามารถจบการขายได้ต้องเป็นอย่างไร

ก็อื่นเราจะต้องมาวิเคราะห์กันก่อนว่า ผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าส่วนใหญ่ชอบใช้ Keyword แบบไหนกัน

เรามาดูตัวอย่างง่ายๆ กัน

หากเราต้องการซื้อที่วีสักเครื่องหนึ่ง เราจะใช้ว่า ซื้อทีวี หรือ ขายทีวี ก็ต้องใช้คำว่า ซื้อทีวีอยู่แล้ว

ลองมาดูอีกตัวอย่างหนึ่ง ระหว่างคำว่า นาฬิการาคาถูก กับ นาฬิกามีกี่แบบ คำที่เป็น Buyer Keyword ก็ควรเป็น นาฬิการาคาถูก

สรุปได้ว่า Buyer Keyword นั้นต้องเป็นคำที่ผู้ซื้อต้องการหาสินค้า ส่วนคำที่เป็นลักษณะต้องการขายหรือคำถามทั่วไปนั้นเป็น Non-Buyer Keyword

เพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาด้วย Non-Buyer Keyword นั้น เขาก็ไม่ได้คิดที่จะซื้อสินค้านั้นตั้งแต่แรกแล้ว

หวังว่านี่จะช่วยให้คุณสามารถจบการขายสินค้าในชิ้นตอนไปได้ในเร็วๆวัน

มีรายได้แบบยั้งยืนด้วยการขายสินค้าให้กับร้านค้าออนไลน์ในอเมริกา

ปัจจุบันการซื้อสินค้าบนอินเตอร์เน็ตถือว่าเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในอเมริกา เนื่องจากราคาสินค้านั้นมีราคาที่ถูกกว่าในห้างหรือร้านค้าทั่วไป เพราะได้ลดต้นทุนในเรื่องของค่าเช่าร้านและการจ้างพนักงานออกไป ทำให้ได้ราคาที่ประหยัดและสินค้าที่ดีกว่า อีกทั้งร้านค้าออนไลน์ก็ไม่ต้องกังกลเกี่ยวกับการค้างสต็อกเพราะเมื่อมีคนสั่งสินค้าก็ค่อยจัดหาสินค้าให้อีกทีหนึ่ง

แต่ปัญหาสำหรับร้านค้าออนไลน์เองอาจจะรับภาระในเรื่องการจัดส่ง และการสนับสนุนลูกค้า รวมไปถึงการหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อนำมาลงในเว็บไซต์ของตนเอง ทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน นี่จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเวลามากขึ้น และไม่ต้องยุ่งยากกับขั้นตอนต่างๆเหล่านั้น เพียงแค่โปรโมทสินค้าให้ร้านค้าออนไลน์ในอเมริกาเท่านั้น แล้วพวกเขาจะดำเนินการต่างๆ ด้วยตนเอง สิ่งที่คุณจะได้คือค่าคอมมิชชั่นที่สูงมีตั้งแต่ 1-80% ของราคาสินค้านั้น (แล้วแต่ร้านค้าไหนจะเป็นผู้กำหนด) มันก็เหมือนการหักกำไรจากต้นทุนนั้นแหละ เพียงแค่เราโปรโมทสินค้าเท่านั้นเอง

แล้วเราจะสามารถขายสินค้าให้กับร้านค้าออนไลน์ในอเมริกาได้ยังไงหล่ะ

นี่คือคำตอบที่ง่ายมากสำหรับทุกคน เพราะเว็บไซต์ Prosperent จะช่วยเป็นตัวกลางให้กับคุณได้พบกับร้านค้าเหล่านั้น โดยที่คุณสมัครกับ Prosperent ที่เดียว ดูเว็บไซต์และร้านค้าทั้งหมด คลิกที่นี่

ทำไมต้อง Prosperent 

ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่เราควรทำ Prosperent เพราะว่ามันเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราเข้าถึงร้านค้าได้มากกว่า 4,800 รายการ ไม่ใช่เพียงเข้าถึงเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือให้ใช้งาน และเป็นตัวกลางที่จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้เราอีกด้วย

โดยสิ่งที่พวกเขาจะได้ประโยชน์คือส่วนแบ่งจากค่าคอมมิชชั่น 30% เพื่อเป็นค่าดูแลรักษาระบบและค่าบริการต่างๆ ส่วนอีก 70% นั้นเป็นของเราทั้งหมด โดยจะจ่ายเราภายใน 30 วันหลังจากได้รับเงินจากร้านค้าแล้วด้วยบัญชี Paypal

วิธีขายสินค้าให้กับร้านค้าออนไลน์ของอเมริกา

เมื่อคุณมีบัญชีของ Prosperent แล้ว คุณก็สามารถเริ่มต้นโปรโมทสินค้าได้เลย ดังนี้

1. เลือกร้านค้าที่คุณต้องการเช่น Nordstrom, Zappos, Kohl's, Newegg เป็นต้น
2. เลือกสินค้าหมวดหมู่ที่ต้องการเช่น Laptop หรือ TV
3. จากนั้นติดตั้งเว็บไซต์ด้วย Wordpress และปลั๊กอิน Prosperent Suite

4. ใส่ API ที่ได้จาก Prosperent ในหน้า General Settings

5. โพสสินค้าโดยใช้เครื่องมือของ Prosperent ด้วย ProsperInsert

• Query คือ Keyword ของสินค้า
• Merchant คือ ชื่อร้านค้า
• Brand คือยี่ห้อ
• Country คือประเทศ
• Limit คือจำนวน
• View คือรูปแบบสินค้าที่ต้องการให้แสดง

ตัวอย่างเช่น Query = Gaming Laptop, Merchant = Newegg.com, Brand = MSI, Country = US, Limit = 10, View = Grid แล้วกด Submit จะได้โค้ดดังนี้

[compare q="Gaming Laptop" gtm="on" b="MSI" m="Newegg.com" l="10" ct="US" v="grid" ft="fetchProducts" w="auto"][/compare]

เมื่อกด Publish บทความจะแสดงสินค้าดังนี้

6. จากนั้นนำลิงค์ไปโปรโมทใน Facebook Page, Twitter, Google+ Page และเว็บ Feed

เพียงแค่นี้คุณก็สามารถโปรโมทสินค้ากับร้านค้าออนไลน์ได้แล้ว ที่เหลือคุณก็อาจจะนำไปต่อยอดในรูปแบบอื่นๆได้เช่น โปรโมทสินค้ารายตัว, เปรียบเทียบราคาจากร้านค้าอื่น หรือทำเว็บรีวิวสินค้าก็ได้

=>> อย่าพลาดที่จะสมัคร Prosperent ตอนนี้ คลิกเลยที่นี่ <<=

วิธีหาเงินที่ง่ายๆ วันละ $100 ผ่านเว็บครอบลิงค์ Adf.ly

"อืม เราก็หาเงินจากออนไลน์ได้เหมือนกัน" นี่เป็นคำพูดที่ดีใจของผมเมื่อมีรายได้เพียงแค่ 1 เซนต์ มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของผมที่รู้สึกดีมากกับการทำงานบนอินเตอร์เน็ต และเป็นจุดเริ่มต้นของงานออนไลน์อื่นๆ ในบทความนี้ผมอยากจะแนะนำและวีธีหาเงินจาก Adf.ly และหวังว่ามันจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในอนาคต

อะไรคือ Adf.ly?

มันแน่นอนอยู่แล้วที่เราจะเริ่มต้นกับคำถามว่า Adf.ly คืออะไร เพื่อให้คุณสามารถรู้เกี่ยวกับมันมากขึ้น

Adf.ly เป็นเว็บไซต์ที่จ่ายเงินให้คุณทุกครั้งที่มีคนคลิกผ่านลิงค์ที่ได้จาก Adf.ly ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากคุณนำลิงค์จากเว็บอื่นๆ แล้วนำไปย่อลิงค์ด้วย Adf.ly เมื่อได้ลิงค์มาแล้วก็นำไปแชร์ต่อที่เว็บไซต์ หากมีคนคลิกผ่านลิงค์ของคุณเมื่อไหร่ Adf.ly จะคิดค่าคลิกให้คุณ โดยที่คนที่คลิกจะได้ดูโฆษณาผ่านลิงค์นั้นเพียง 5 วินาที

Adf.ly ทำงานยังไงและเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้เรา

เหตุผลง่ายๆ ที่ Adf.ly สามารถอยู่ได้นานถึงตอนนี้ ก็เพราะว่าได้รับการยอมรับจากผู้โฆษณาไงล่ะ ซึ่งผู้โฆษณาเหล่านี้จำเป็นต้องขายสินค้าของพวกเขา การที่มีผู้ชมมากๆ ทำให้ทุกคนได้เห็นสินค้าและอาจจะซื้อมันก็ได้ โดยผู้โฆษณาจะจ่ายเงินให้ Adf.ly โดยคิดจาก 1000 คนต่อ $2 จากนั้น Adf.ly จะขอเก็บเงินไว้ที่ $0.4 ส่วนที่เหลือ $1.6 นั้นเอาไว้เป็นค่าคลิกให้กับพวกเรา

เหตุผลที่คุณควรทำ Adf.ly

1. สมัครง่ายและรวดเร็ว
2. ใช้งานง่ายในการทำเงิน
3. จ่ายขั้นต่ำที่ 5 เหรียญ
4. สามารถให้จ่ายเป็นรายวันได้
5. มีเครื่องมือให้ใช้มากมาย
6. มีระบบแนะนำเพื่อนเพื่อรับส่วนแบ่ง 20%

วิธีการจ่ายเงิน

หาคุณมีบัญชี Paypal คุณสามารถรับเงินได้ทุกเดือน เพราะเมื่อคุณมีเงินในบัญชีเกิน 5 เหรียญขึ้นไปจะถูกสั่งจ่ายแบบอัตโนมัติทุกเดือน

วิธีการคำนวนค่าคลิก

อัตราค่าคลิกนั้นแตกต่างกันทั้งประเทศและเครื่องมือสื่อสารเช่น Desktop หรือ Mobile เช็คอัตราคลิกที่นี่

เครื่อมือที่นิยมใช้งาน

• Mass Shrinker คือการย่อลิงค์จำนวนมากในครั้งเดียว
• Full Page Script คือจะเปลี่ยนลิงค์ทั้งหมดในเว็บไซต์ให้ครอบลิงค์ด้วย Adf.ly
• Website Entry Script คือเมื่อมีคนเข้าเว็บไซต์จะต้องผ่านโฆษณาของ Adf.ly ก่อน
• Plugins คือเครื่องมือสำหรับ Wordpress

วิธีหาเงิน Adf.ly ให้ได้ $100 ต่อวัน

1. หาไฟล์ใหม่ๆ เช่น หนังสือ เพลง หนัง เกมส์ หรือไฟล์อื่นๆ
2. ทำ Demo ด้วยโปรแกรม Windows Movie Maker ใส่เนื้อหาบางส่วนลงไปพร้อมเพลงประกอบ
3. จากนั้นนำไฟล์ตัวจริงไปอัพโหลดในเว็บฝากไฟล์แล้วย่อลิงค์ด้วย Adf.ly
4. นำ Demo ที่ทำไว้ไปอัพโหลดที่ Youtube พร้อมทั้งใส่ลิงค์ที่ได้จาก Adf.ly ลงไปในช่องรายละเอียด
5. ในส่วนแรกนำลิงค์จาก Youtube ไปแชร์ใน Facebook, Twitter, Google Page และอื่นๆ
6. ส่วนที่สองนำลิงค์ที่ได้จาก Adf.ly ไปแชร์ต่อที่ เว็บไซต์, เว็บบอร์ด, คอมเมนต์ที่เกียวข้อง
7. ส่วนที่สามสร้างไฟล์ pdf แล้วอย่าลืมใส่ลิงค์ที่ได้จาก Adf.ly ลงไปด้วย แล้วอัพโหลดไฟล์ pdf ในเว็บ เช่น  scribd.com, slideshare.net เป็นต้น

เมื่อมีคนเข้า Youtube 20 คน แล้ว คลิกแค่ 1 คน ก็ถือว่าปรสบความสำเร็จแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ความอดทนของคุณเท่านั้น

[คลิกที่นี่ เพื่อสมัคร Adf.ly ตอนนี้]

หาเงินจาก Prosperent ด้วยบล็อกฟรี

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่สร้างรายได้ผ่านทางออนไลน์ นี่คือโอกาสที่ดีสำหรับคุณที่จะทำ Prosperent ในตอนนี้ เพราะว่า Prosperent เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมร้านค้ามากมายระดับต้นๆของโลก อาทิเช่น Zappos เว็บที่ขายเสื้อผ้าชั้นนำ, Kohl's เว็บขายสินค้าภายในบ้าน , Nordstrom จ่ายค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 25% และยังมีอีกมากมายที่คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องสมัครเพิ่ม

[สมัครทำ Prosperent ตอนนี้]

ข้อดีสำหรับการทำ Prosperent

Prosperent จัดว่าเป็นเว็บไซต์ที่มั่นคง เพราะได้รับการยอมรับจากร้านค้ามากกว่า 4,800 และมีวี่แววว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยจากการเติบโตของเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถเชื่อมั่นกับเว็บไซต์นี้ได้อย่างแน่น่อน โดยข้อดีของการทำ Prosperent นั้นคือ

• สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
• ใช้บล็อกฟรีในการโปรโมทสินค้าได้
• มีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับ Wordpress และเว็บไซต์อื่นๆ
• ใช้ Deep link เฉพาะสินค้าที่ต้องการได้
• มีระบบที่ดีและความปลอดภัยสูง
• การจ่ายเงินที่ตรงเวลา

นี่เป็นเพียงไม่กี่ข้อสำหรับจากที่ได้ทำ Prosperent เท่านั้น ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีจาก ตัวเองได้

หลักการจ่ายผลตอบแทน

Prosperent สามารถจ่ายเงินให้คุณได้โดยไม่มีขั้นต่ำผ่านทาง Paypal โดยจะจ่ายเงินให้คุณหลังจาก 30 วันที่ได้รับเงินจากร้านค้าแล้ว ซึ่งจะหัก 30% เป็นค่านายหน้า แล้วจะแสดงอีก 70% ผ่านหน้าจอรายได้

การทำ Prosperent ด้วยบล็อกฟรีนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้

• ติดตั้ง Code ลงไปในบล็อก ซึ่งเมื่อคุณนำ Code ที่ได้จาก Prosperent นั้นไปติดตั้งแล้ว จะทำให้สามารถใส่ลิงค์ตรงของสินค้าไปได้เลย 
• ใช้ Deep link ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และรวดเร็ว โดยสามารถใส่ลิงค์ของสินค้าแบบเจาะจงได้เลย เหมาะกับบางเว็บที่ไม่สามารถใส่ Code ได้ เช่น Facebook, Twitter เป็นต้น

ซึ่งลักษณะของ Deep link เป็นดังนี้

http://prosperent.com/api/linkaffiliator/redirect?apiKey=<YOUR API KEY>&sid=MYSID&url=<MERCHANT URL>

<YOUR API KEY> คือ API ของคุณ

<MERCHANT URL> คือลิงค์ของสินค้า

เพียงแค่นี้คุณก็สามารถนำสินค้ามาโปรโมทในบล็อกฟรีได้แล้ว

[คลิกที่นี่เพื่อสมัครทำ Prosperent]

สมัครทำ Adf.ly รายได้ผ่านเน็ต

รู้จักกับ Adf.ly

หลายคนคงเคยเห็น Adf.ly มาแล้ว แต่ตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Adf.ly กันว่ามันดียังไง ทำไมถึงต้องเลือกที่จะทำกัน เพราะว่า Adf.ly นั้นเป็นเว็บไซต์ครอบลิงค์ที่นิยมมาก ถือว่าเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ ด้วยความเป็นที่นิยม จึงมีความมั่นคงสูง จ่ายเงินแน่นอน ซึ่งเมื่อเราครอบลิงค์แต่ละครั้งและมีคนคลิกผ่านเข้าไประบบจะแสดงโฆษณาทำให้เราได้ค่าคลิกเป็นค่าตอบแทน

แล้วมันดียังไง

ก็เพราะว่าเราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ก็สามารถมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงจะไม่มากแต่ก็พออยู่ได้เป็นอาชีพ อาศัยเพียงแค่ความอดทน และขยันเท่านั้น โดยจะมีค่าตอบแทนที่แตกต่างขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของคลิก เช่น หากเป็นในอเมริกาค่า cpm จะอยู่ที่ $9.05 ต่อ 1,000 คลิก แต่ของไทยจะอยู่ที่ 0.44 ต่อ 1,000 คลิก (เช็คเรททั้งหมดได้ที่นี่) และระบบก็จะจ่ายเงินให้เราเมื่อถึง 5 เหรียญทุกเดือน ใน Paypal

เมื่อเราเข้าใจเกี่ยวกับ Adf.ly แล้ว เราก็มาเริ่มสมัครกันเลย

ให้คุณ คลิกที่นี่ เพื่อสมัครหรือกดที่แบนเนอร์ข้างล่าง

Get paid to share your links!

เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ให้คุณกดที่ เข้าร่วมตอนนี้ หรือ Log in เข้าทาง Facebook ก็ได้

กรอกข้อมูลตามนี้ :

• ชื่อของคุณ
• ยูเชอร์เนม
• อีเมล์ของคุณ
• ยืนยันอีเมล์
• บัญชีประเภทตัวย่อลิงค์
• รหัสผ่าน
• ยืนยันรหัสผ่าน

กรอกตามตัวอักษรและติ๊กเครื่องหมายถูก แล้วกดเข้าร่วม

จากนั้นระบบจะส่งข้อมูลให้ยืนยันทางอีเมล์ ให้คุณเข้าอีเมล์แล้วยืนยันให้เรียบร้อย

เพียงแค่นี้คุณก็จะสามารถหาเงินจาก Adf.ly ได้แล้ว หากคุณยังไม่ทำตอนนี้ก็สามารถสมัครไว้ก่อนได้แล้วค่อยทำทีหลัง

ต่อไปจะเป็นวิธีการทำ Adf.ly ให้ได้คลิกเยอะๆ และเร็วๆ

5 เหรียญต่อเดือน VPS จาก DigitalOcean

DigitalOcean คือผู้ให้บริการ Hosting ในราคาที่ถูก ทุกคนสามารถใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Server ให้กับเว็บไซต์ หรือใช้เป็น VPS เพื่อใช้งาน คุณสามารถทำได้ตามต้องการ โดยจะมีชื่อเรียกการให้บริการว่า Droplet

1 Droplet ก็เหมือนกับ 1 VPS ซึ่งเราสามารถทำอะไรก็ได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์ของเราเอง โดยเราจะเป็นคนเลือกสเปกตามการใช้งานของเรา ยิ่งสเปกสูงราคาก็สูงตาม โดยเริ่มต้นราคาที่ 5 เหรียญต่อเดือน

ไม่เพียงแค่นั้น DigitalOcean ยังมีเครื่องมือที่ช่วยติดตั้งระบบปฏิบัติการณ์ต่างๆได้ด้วย เช่น Ubuntu ,CentOS และอื่นๆอีกมากมาย

หากคุณต้องการสมัครใช้งาน คลิกที่นี่

วิธีใช้งาน DigitalOcean

กด Create มุมซ้ายมือ

จากนั้น กรอกชื่อ host แล้วเลือก ขนาดของ host ตามราคาและสเปกที่ต้องการ

• เลือกแหล่งที่ตั้งของ Server
• Available Settings คือ ตัวเลือกเพิ่มเติม (จะไม่เลือกก็ได้)

ติดตั้งโปรแกรมสำหรับใช้งานเริ่มต้น

• Linux Distributions คือระบบปฏิบัติการณ์ในกลุ่ม Linux เช่น Ubuntu, CentOs และอื่นๆ
• Applications เป็นเครื่องมือที่ต้องการติดตั้งให้เริ่มต้น เช่น Wordpress, LAMP, Ghost หรืออื่นๆ

เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดที่ Create Droplet เป็นอันเสร็จสิ้น จากนั้นรอแค่ 30 วินาทีก็ใช้งานได้เลย

วิธีเชื่อมต่อ โดเมนกับ DigitalOcean

ให้คลิก DNS ที่เมนูด้านซ้ายมือ

กด Add Domain จากนั้นกรอกชื่อโดเมน และเลือก Droplet 

จากนั้นเข้าเว็บไซต์โดเมนที่ใช้บริการ ใส่  NameServer ของ DigitalOcean คือ

ns1.digitalocean.com
ns2.digitalocean.com
ns3.digitalocean.com

แค่นี่คุณก็สามารถมี Hosting ในราคาที่ถูกใช้งานแล้ว

ติดตั้ง zPanel บน CentOs 6.4

สำหรับ zPanel นั้นเป็น Control panel อีกตัวหนึ่งจากหลายตัวที่เปิดให้สามารถใช้งานได้ฟรี โดยมีเครื่องมือสำหรับการจัดการเว็บไซต์มาให้พร้อมสำหรับการใช้งาน หากคุณต้องการที่จะติดตั้งบน CentOs 6.4 นั้นก็สามารถทำได้ อีกทั้ง zPanel สามารถใช้งานได้ดีโดยไม่เปลื้องทรัพย์กรของ VPS แรมแค่ 512MB ก็ติดตั้งได้ นี่คือขั้นตอนในการติดตั้งดังนี้

ขั้นตอนการติดตั้ง zPanel

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม

แบบ 64-bit :

wget -O installer-10-1-0-centos-64.sh.x https://github.com/zpanel/zpanelx/releases/download/10.1.0_orig/installer-10-1-0-centos-64.sh.x

แบบ 32-bit :

wget -O installer-10-1-0-centos-32.sh.x https://github.com/zpanel/zpanelx/releases/download/10.1.0_orig/installer-10-1-0-centos-32.sh.x

ขั้นที่ 2. ติดตั้งโปรแกรม

แบบ 64-bit :

chmod +x installer-10-1-0-centos-64.sh.x

แบบ 32-bit :

chmod +x installer-10-1-0-centos-32.sh.x

ขั้นที่ 3. ติดตั้ง packages

yum install ld-linux.so.2 curl

ขั้นที่ 4. ติดตั้ง zPanel อีกรอบ

แบบ 64-bit :

./installer-10-1-0-centos-64.sh.x

แบบ 32-bit :

./installer-10-1-0-centos-32.sh.x

เมื่อติดตั้งเรียบร้อยจะได้รับข้อมูลและ Password คุณสามารถเข้าไปใช้งานได้เลยทาง web browser และ IP address

ติดตั้ง VestaCP บน CentOs 6.5

เมื่อคุณจำเป็นต้องใช้งาน Free control panel บน VPS นี่คือ VestaCP ซึ่งเป็น Control panel ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้งานได้ฟรี โดยในปัจจุบันสามารถติดตั้งได้บน CentOS และถือว่าเครื่องมือที่จำเป็นมากสำหรับการจัดการเว็บไซต์ใน VPS

VestaCP สามารถใช้งานได้บน CentOs รวมถึงระบบปฏิบัติการอื่นๆ ด้วยเช่น RedHat และ Ubuntu แต่นี่จะเป็นขั้นตอนสำหรับการติดตั้งของ CentOs 6.5

หากคุณได้ติดตั้ง CentOs 6.5 ใน VPS แล้ว สามารถติดตั้ง VestaCP ได้ตามขั้นตอนดังนี้

วิธีติดตั้ง VestaCP

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลด VestaCP :

curl -O http://vestacp.com/pub/vst-install.sh

ขั้นที่ 2. ใช้คำสั่งเพื่อติดตั้ง :

bash vst-install.sh

จากนั้นใส่ y แล้ว entry

ใส่อีเมล์ และเริ่มต้นการติดตั้ง

เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วคุณจะได้รับ user และ password

จากนั้นคุณสามารเข้าไป login เพื่อใช้งานได้ทาง Browser เช่น https://xxx.xxx.xxx.xxx:8083/

ติดตั้ง Webmin บน CentOS

เมื่อคุณตัองการที่จะจัดการ Server บนระบบของ Linux หรือระบบที่เกี่ยวข้องในกลุ่มของ Linux Distribution คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะใช้งาน Webmin ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการใช้งาน ติดตั้งได้รวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถทำให้การใช้งานง่ายขึ้น เพราะในระบบการจักการสามารถตั้งค่าได้ทั้ง user account, Apache, DNS, file sharing และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้การติดตั้งเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย

นี่คือขั้นตอนในการติดตั้งแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งบน CentOS ดังนี้

วิธีติดตั้ง Webmin

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม :

cd /opt wget http://www.webmin.com/jcameron-key.asc

wget http://prdownloads.sourceforge.net/webadmin/webmin-1.680-1.noarch.rpm

ขั้นที่ 2. ติดตั้งโปรแกรม :

rpm --import jcameron-key.asc

rpm -Uvh webmin-1.680-1.noarch.rpm

จากนั้นคุณสามารถเข้าไปใช้งานได้โดยเข้าเว็บไซต์ของคุณตามด้วย :10000 หรือ IP Address ตามด้วย :10000

คำแนะนำ

หากต้องการปิดหรือเปิดการใช้งาน :

/etc/init.d/webmin start

/etc/init.d/webmin stop

/etc/init.d/webmin restart

/etc/init.d/webmin status

ติดตั้ง Ajenti บน CentOS

หากคุณเคยใช้ Control Panel อื่นๆ เช่น zPanel, VestaCP, Webmin หรือ Kloxo มาแล้ว คุณอาจจะรู้จัก Ajenti ซึ่งเป็น Control Panel อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทำงานได้ดีบนระบบ Linux Server แต่มี user interface ที่น่าใช้งานมากกว่า

Ajenti นั้นเปิดให้ใช้งานได้ฟรี คุณจึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย อีกทั้งยังติดตั้งง่าย รวดเร็ว และไม่เปลืองทรัพยากรของ Server อีกด้วย

เมื่อคุณมี CentOS อยู่แล้ว และต้องการที่จะติดตั้ง Ajenti เพื่อใช้งาน นี่คือขั้นตอน เพียงไม่กี่ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งได้ง่ายขึ้น ดังนี้

วิธีติดตั้ง Ajenti มี 2 วิธีดังนี้

แบบที่ 1. ติดตั้งด้วยตนเอง

ขั้นที่ 1. อัพเดท Server :

yum update -y

yum upgrade -y

ขั้นที่ 2. ดาวน์โหลดโปรแกรม :

wget http://repo.ajenti.org/ajenti-repo-1.0-1.noarch.rpm

rpm -i ajenti-repo-1.0-1.noarch.rpm

ขั้นที่ 3. ติดตั้งโปรแกรม :

yum install ajenti -y

แบบที่ 2. ติดตั้งแบบอัตโนมัติ

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง

wget -O- https://raw.github.com/Eugeny/ajenti/master/scripts/install-rhel.sh | sh

ถ้าคำสั่งไม่ทำงาน คุณสามารถใช้คำสั่งนี้แทนได้ :

wget -O- https://raw.githubusercontent.com/Eugeny/ajenti/master/scripts/install-rhel.sh | sh

ขั้นที่ 2. Restart เพื่อใช้งาน

service ajenti restart

เมื่อคุณติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้เลยที่ เว็บไซต์ตามด้วย :8000 หรือ ip address ตามด้วย :8000

username คือ root และ password คือ admin

หากคุณไม่สามารถใช้งานได้ มีวิธีแก้ดังนี้

nano /etc/sysconfig/iptables

-A INPUT -p udp -m state --state NEW --dport 8000 -j ACCEPT

-A INPUT -p tcp -m state --state NEW --dport 8000 -j ACCEPT

service iptables restart

ติดตั้ง Kloxo MR บน CentOS

เมื่อคุณมี VPS เป็นของตนเอง ซึ่งได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการณ์ CentOS แล้ว หากคุณต้องการที่จะจัดการและควบคุมเว็บไซต์ Kloxo MR คือทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมและจัดการเว็บไซต์ด้วยตนเอง เพีบงแคาคุณมี MySQL และ PHP ก็สามารถสร้างเว็บไซต์จำนวนมากตามที่ต้องการได้แล้ว

Kloxo ถือว่าเป็น Web panel ที่เปิดให้ใช้ฟรี และใช้งานได้ดีด้วย คุณจึงไม่ยุ่งยากกับการใช้งานในครั้งแรก งั้นเรามาดูวิธีติดตั้งการใช้งานบน CentOS กันเลย

วิธีติดตั้ง Kloxo MR

ขั้นที่ 1. อัพเดท Server :

yum update -y

ขั้นที่ 2. ติดตั้ง package ที่จำเป็นต้องใช้ :

yum install yum-utils yum-priorities vim-minimal subversion curl zip unzip -y

yum install telnet wget -y

ขั้นที่ 3. ปิดการใช้งานของ SELinux ก่อน :

setenforce 0

ถ้าไม่สามารถปิดได้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน :

echo 'SELINUX=disabled' > /etc/selinux/config

ขั้นที่ 4. ดาวน์โหลดโปรแกรม :

cd /tmp

rm -f mratwork*

wget https://github.com/mustafaramadhan/kloxo/raw/rpms/release/neutral/noarch/mratwork-release-0.0.1-1.noarch.rpm --no-check-certificate

rpm -ivh mratwork-release-0.0.1-1.noarch.rpm

cd /

ขั้นที่ 5. ติดตั้งโปรแกรม :

yum clean all

yum update mratwork-* -y

yum install kloxomr7 -y

sh /script/upcp

เป็นอันเรียบร้อย คุณจะได้ลิงค์สำหรับใช้งาน รวมถึง username และ password

ติดตั้ง Drupal บน Ubuntu 14.04

เมื่อคุณต้องการทีจะติดตั้ง Drupal ซึ่งเป็น CMS ที่นิยมใช้กันมากจำนวนหนึ่ง ส่วนสำคัญของ Drupal นั้นคือการจัดการระบบของเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร มีปลักอินและระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ใช้งานง่าย รวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ HTML และ PHP

การที่จะติดตั้งบน Ubuntu Server นั้น คุณจะต้องติดตั้ง LAMP ก่อน เพราะมีส่วนสำคัญในการใช้งานของ MySQL และเมื่อคุณติดตั้งเรียบร้อยแล้ว นี่คือขั้นตอนต่อไปของการติดตั้ง  Drupal บน Ubuntu 14.04

วิธีติดตั้ง Drupal

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม :

cd /temp

คุณสามารถดูและแก้ไขเวอร์ชั่นเป็นล่าสุดได้โดยไปที่ www.drupal.org/download แล้วเปลี่ยนตัวเลข เวอร์ชั่นตอนนี้คือ 7.30

wget http://ftp.drupal.org/files/projects/drupal-7.30.zip

apt-get install unzip

ขั้นที่ 2. ลงโปรแกรม :

apt-get update

apt-get install php5-gd

unzip -q drupal-7.30.zip -d /var/www/html/

mv /var/www/html/drupal-7.30/ /var/www/html/drupal

chown -R www-data.www-data /var/www/html/drupal

chmod -R 755 /var/www/html/drupal

ขั้นที่ 3. ติดตั้ง Database :

mysql -u root -p

แก้ไขชื่อและพาสเวริด์โดยให้ database=drupaldb user=drupaluser และ password=drupalpassword:

CREATE DATABASE drupaldb;

CREATE USER drupaluser@localhost IDENTIFIED BY 'drupalpassword';

GRANT ALL PRIVILEGES ON drupaldb.* TO drupaluser@localhost;

FLUSH PRIVILEGES;

exit

จากนั้นเข้าเว็บไซต์ตามด้วย /drupal  หรือ IP address /drupal เพื่อตั้งค่าให้ใช้งานต่อไป

ติดตั้ง TYPO3 บน Ubuntu 14.04

TYPO3 เป็น CMS อย่างหนึ่งที่มีประสิทธ์สูงในการจัดการเนื้อหา คุณสามารถใช้งานได้ฟรี อีกทั้งยังสามารถติดตั้งได้บน Ubuntu ซึ่งขั้นตอนในการติดตั้งนั้น คุณจะต้องติดตั้ง LAMP ไว้เรียบร้อย ซึ่งสามารถดูขั้นตอนการติดตั้งได้จากเว็บไซต์นี้ และเมื่อคุณพร้อมแล้วก็สามารถติดตั้ง TYPO3 ตามขั้นตอนนี้

วิธีติดตั้ง TYPO3

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม

คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมล่าสุดได้ โดยเข้าไปที่ typo3.org/download/ ดูตรง Packages ช่อง Latest ซึ่งตอนนี้ คือ 6.2.6 จากนั้นให้เปลี่ยนตรงสีแดงให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

cd /var/www/html/

wget http://prdownloads.sourceforge.net/typo3/typo3_src-6.2.6.zip

apt-get install unzip

unzip typo3_src-6.2.6.zip -d /var/www/html/

ขั้นที่ 2. ติดตั้ง TYPO3 :

cd /var/www/html/typo3_src-6.2.6

touch FIRST_INSTALL typo3_src

cd /var/www/html/typo3_src-6.2.6

mv _.htaccess .htaccess

vi /etc/php5/apache2/php.ini

ใส่ข้อความดังนี้ :

[...]

; http://php.net/max-execution-time
; Note: This directive is hardcoded to 0 for the CLI SAPI
max_execution_time = 240

[...]

; is disabled through enable_post_data_reading.
; http://php.net/post-max-size
post_max_size = 10M

[...]

; Maximum allowed size for uploaded files.
; http://php.net/upload-max-filesize
upload_max_filesize = 10M

[...]

ขั้นที่ 3. ตั้งค่า Database :

chown www-data:www-data -R typo3_src-6.2.6/

chmod -R 775 typo3_src-6.2.6/

service apache2 restart

mysql -u root -p

ตรงนี้ให้แก้ไขโดยให้ database=typo3db, user=typo3user และ password=typo3password

CREATE DATABASE typo3db;

CREATE USER typo3user@localhost IDENTIFIED BY 'typo3password';

GRANT ALL PRIVILEGES on typo3db.* to typo3user@localhost ;

FLUSH PRIVILEGES;

exit

ขั้นที่ 4. แล้ว Restart ให้เรียบร้อย :

service apache2 restart

service mysql restart

จากนั้นเข้าไปตั้งค่าที่ เว็บไซต์ตามด้วย /typo3_src-6.2.6/typo3/sysext/install/Start/Install.php หรือ IP address ตามด้วย /typo3_src-6.2.6/typo3/sysext/install/Start/Install.php

ติดตั้ง MediaWiki บน Ubuntu 14.04

เมื่อคุณต้องการที่จะติดตั้ง MediaWiki ซึ่งเป็นซอฟแวร์เสรีที่ใช้สร้างเว็บไซต์ที่เป็นวิกิ (วิกิ คือเว็บไซต์ที่ทุกคนสามารถเขียนและแก้ไขเนื้อหาได้อิสระ)

ก่อนติดตั้ง คุณจะต้องมี LAMP ใน Server โดยหาดูขั้นตอนได้จากเว็บไซต์และเมื่อคุณเตรียมพร้อมแล้วก็สามารถติดตั้ง MediaWiki ด้วยขั้นตอนที่มีดังนี้

วิธีติดตั้ง MediaWiki

ขั้นที่ 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม :

cd /tmp

wget http://releases.wikimedia.org/mediawiki/1.23/mediawiki-1.23.6.tar.gz

tar zxvf mediawiki-1.23.6.tar.gz

mkdir -p /var/www/html/mediawiki

mv mediawiki-1.23.6/* /var/www/html/mediawiki

ขั้นที่ 2. ตั้งค่า Database :

mysql -u root -p

แก้ไขชื่อตามนี้ให้ database=mediawikidb user=mediawikiuser และ password=mediawikipassword:

CREATE DATABASE mediawikidb;

CREATE USER mediawikiuser@localhost IDENTIFIED BY 'mediawikipassword';

GRANT index, create, select, insert, update, delete, alter, lock tables on mediawikidb.* TO mediawikiuser@localhost;

FLUSH PRIVILEGES;

exit

service apache2 restart

service mysql restart


จากนั้นเข้าไปตั้งค่า MediaWiki ทางเว็บไซต์ตามด้วย /mediawiki หรือ IP address ตามด้วย /mediawiki ได้เลย

ติดตั้ง Moodle บน Ubuntu 14.04

คุณสามารถติดตั้ง Moodle บน Ubuntu Server ได้ ซึ่ง Moodle นั้นเป็นระบบจัดการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ให้เหมือนกับการเรียนในห้องเรียน โดยรูปแบบนั้น สามารถช่วยให้ผู้สอนและผู้เขียนเข้าถึงกิจกรรมร่วมกันได้ ซึ่งโปรแกรมชุดนี้ คุณสามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแค่มี Ubuntu Server เท่านั้น

วิธีติดตั้ง Moodle

ขั้นที่ 1. ลง Apache/MySQL/PHP

apt-get -y install apache2 mysql-client mysql-server php5

apt-get -y install graphviz aspell php5-pspell php5-curl php5-gd php5-intl php5-mysql php5-xmlrpc php5-ldap git-core

ขั้นที่ 2. ดาวน์โหลดโปรแกรม

cd /opt

git clone git://git.moodle.org/moodle.git

cd moodle

git branch -a

git branch --track MOODLE_27_STABLE origin/MOODLE_27_STABLE

git checkout MOODLE_27_STABLE

cp -R /opt/moodle /var/www/html/

mkdir /var/moodledata

chown -R www-data /var/moodledata

chown -R www-data /var/www/html/moodle

chmod -R 777 /var/moodledata

chmod -R 0755 /var/www/html/moodle

nano /etc/mysql/my.cnf

ใส่ข้อความลงไปดังนี้ :

[...]
#Basic settings for moodle
default-storage-engine = innodb


ขั้นที่ 3. ตั้งค่า Database

mysql -u root -p

แก้ไขชื่อ database, username และ password ดังนี้ database=moodledb user=moodleuser and password=moodlepassword:

CREATE DATABASE moodledb DEFAULT CHARACTER SET utf8 COLLATE utf8_unicode_ci; GRANT SELECT,INSERT,UPDATE,DELETE,CREATE,CREATE TEMPORARY TABLES,DROP,INDEX,ALTER ON moodledb.* TO moodleuser@localhost IDENTIFIED BY 'moodlepassword';

FLUSH PRIVILEGES;

exit

ขั้นที่ 4. Restart :

service apache2 restart

service mysql restart

จากนั้นคุณสามารถเข้าไปตั้งค่าใน Moodle ได้เลย ในเว็บไซต์ตามด้วย /moodle/install.php หรือ IP address ตามด้วย/moodle/install.php

ติดตั้ง Contao CMS บน Ubuntu 14.04

Contao CMS ถือว่าเป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป คุณจึงสามารถที่จะใช้งานเว็บไซต์ของคุณได้สะดวกขึ้น ด้วยคุณสมบัติของ Contao ที่มีระบบความปลอดภัยที่สูงและสมารถให้คุณออกแบบและพัฒนารูบแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search engine และเมื่อคุณต้องการที่จะติดตั้ง Contao บน Ubuntu 14.04 นั้นก็จะสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ก่อนที่จะติดตั้งคุณควรเตรียมพร้อม Ubuntu Server ของคุณให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งจำเป็นต้องมี LAMP เพื่อให้แน่ใจว่า Apache จะสามารถใช้งาน .htaccess สามารถ rewriting URL ให้เหมาะสมกับ SEO

ขั้นตอนการติดตั้ง Contao

ขั้นที่ 1. ดาว์โหลดและติดตั้ง

cd /var/www/html/

curl -L http://download.contao.org | sudo tar -xzp

ตรงสีแดงให้คุณแก้ไขชื่อตามเวอร์ชั่นที่คุณดาวโหลดมา ชึ่งเวอร์ชั่นล่าสุดตอนนี้คือ contao-3.3.5 สามารถตรวจสอบเวอร์ชั่นได้ที่ contao.org/en/download.html

chown -R www-data:www-data contao-3.3.5/

chmod -R 755 contao-3.3.5/

chmod -R 775 contao-3.3.5/assets/images/

chmod -R 775 contao-3.3.5/system/logs/

chmod -R 775 contao-3.3.5/system/tmp

mv /var/www/html/contao-3.3.5/.htaccess.default /var/www/html/contao-3.3.5/.htaccess

ขั้นที่ 2. สร้าง Database

ข้อความสีแดงคือให้แก้ไข contaodb= ชื่อของ database, contaoadmin=ชื่อของ user, contaopassword=password

mysql -u root -p

CREATE DATABASE contaodb;

CREATE USER contaoadmin@localhost IDENTIFIED BY 'contaopassword';

GRANT ALL PRIVILEGES ON contaodb.* TO contaoadmin@localhost;

FLUSH PRIVILEGES;

exit

apt-get install vsftpd

vi /etc/vsftpd.conf


ใส่ข้อความดังตอนไปนี้ลงไป :

[...]

local_enable=YES
[...]

write_enable=YES
[...]

เป็นอันเรียร้อย จากนั้นให้เข้าเว็บไซต์ตามด้วย /contao-3.3.5/contao/install.php

ติดตั้ง Joomla บน Ubuntu 14.04

นี่เป็นวิธีที่จะสอนให้คุณสามารถติดตั้ง Joomla ได้บน Ubuntu 14.04 server ซึ่งเมื่อคุณใช้งาน Ubuntu และต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อใช้งาน คุณก็สามารถติดตั้ง Joomla ด้วยวิธีนี้ได้

ก่อนที่คุณจะติดตั้ง Joomla นั้นคุณจะต้องเตรียมพร้อมในการติดตั้ง LAMP ไว้ใน Ubuntu 14.04 แล้ว ซึ่งสามารถดูวิธีติดตั้ง LAMP ได้ที่นี่ และถ้าคุณไม่ต้องการให้เว็บไซต์ของคุณเป็นชื่อ IP Address คุณก็สามารถเชื่อมต่อเว็บไซต์กับ Web hosting ที่คุณใช้บริการได้

วิธีติดตั้ง Joomla ดังนี้

ขั้นที่ 1. โหลดโปรแกรม Joomla

mkdir temp

cd temp

wget https://github.com/joomla/joomla-cms/releases/download/3.3.6/Joomla_3.3.6-Stable-Full_Package.zip

apt-get install unzip

mkdir -p /var/www/html/

unzip -q Joomla_3.3.6-Stable-Full_Package.zip -d /var/www/html/

chown -R www-data.www-data /var/www/html/joomla

chmod -R 755 /var/www/html/joomla

ขั้นที่ 2. สร้าง Database

mysql -u root -p

ให้คุณตั้งชื่อ Database, Username และ Password ดังนี้ database=joomladb user=joomlauser และ password=joomlapassword:

CREATE DATABASE joomladb;

CREATE USER joomlauser@localhost;

SET PASSWORD FOR joomlauser@localhost= PASSWORD("joomlapassword");

GRANT ALL ON `joomladb`.* TO `joomlauser`@`localhost` IDENTIFIED BY 'joomlapassword';

GRANT ALL PRIVILEGES ON joomladb.* TO joomlauser@localhost IDENTIFIED BY 'joomlapassword';

FLUSH PRIVILEGES;

exit

จากนั้น Restart

service apache2 restart

service mysql restart

จากนั้นคุณก็ตั้งค่า Joomla โดยเข้าที่เว็บไซต์ของคุณได้เลย

ติดตั้ง Linux, Apache, MySQL, PHP (LAMP) บน Ubuntu, Centos

LAMP คือกลุ่มเครืองมือที่ประกอบด้วย Apache, MySQL, PHP ที่มีให้ใช้ใน Web Server ของ Linux และสามารถใช้งานได้บน Ubuntu และ Centos

ขั้นตอนที่ 1. ติดตั้ง Apache, MySQL, PHP (LAMP)

สำหรับ Ubuntu 12.04 :

- ติดตั้ง Apache

ให้คุณติดตั้ง Apache โดยใช้ putty หรือ terminal โดยใช้คำสั่ง :

sudo apt-get update
sudo apt-get install apache2

- ติดตั้ง MySQL ใช้คำสั่ง :

sudo apt-get install mysql-server libapache2-mod-auth-mysql php5-mysql

sudo mysql_install_db

sudo /usr/bin/mysql_secure_installation

- ติดตั้ง PHP ใช้คำสั่งเริ่มต้น :

sudo apt-get install php5 libapache2-mod-php5 php5-mcrypt

- แล้ว Restart Server :

sudo /etc/init.d/apache2 restart

สำหรับ Centos :

- ติดตั้ง Apache

ให้คุณติดตั้ง Apache โดยใช้ putty หรือ terminal โดยใช้คำสั่ง :

sudo yum install httpd
sudo service httpd start

- ติดตั้ง MySQL

sudo yum install mysql-server sudo service mysqld start

- ติดตั้ง PHP

sudo apt-get install php5 libapache2-mod-php5 php5-mcrypt

ติดตั้ง Wordpress บน Ubuntu 12.04 และ Centos 6

เราสามารถสร้างเว็บไซต์บน Ubuntu 12.04 และ Centos 6 ได้ด้วยการติดตั้ง Worpress ซึ่งมีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว ทุกคนสามารถทำได้เอง

โดย Wordpress นั้นเป็นเว็บไซต์ฟรีที่คล้ายๆกับ Blogger พร้อมด้วยเครื่องมือต่างๆ ให้จัดการเว็บไซต์ได้ง่าย รองรับต่อการทำ SEO ก่อนที่คุณจะติดตั้ง wordpress คุณจำเป็นต้องติดตั้ง LAMP บน VPS ของคุณก่อน และต้องแน่ใจว่าคุณมี Linux, Apache, MySQL, PHP แล้ว

วิธีติดตั้ง LAMP

วิธีติดตั้ง Worpress

ขั้นตอนที่ 1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง wordpress

wget http://wordpress.org/latest.tar.gz

tar -xzvf latest.tar.gz

ขั้นตอนที่ 2. สร้าง WordPress Database และ User

mysql -u root -p

CREATE DATABASE wordpress;
Query OK, 1 row affected (0.00 sec)

CREATE USER wordpressuser@localhost;
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)

SET PASSWORD FOR wordpressuser@localhost= PASSWORD("password");
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)

GRANT ALL PRIVILEGES ON wordpress.* TO wordpressuser@localhost IDENTIFIED BY 'password';
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)

FLUSH PRIVILEGES;
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)

exit

- ตั้งค่า WordPress Configuration

cp ~/wordpress/wp-config-sample.php ~/wordpress/wp-config.php

sudo nano ~/wordpress/wp-config.php

แก้ไขชื่อ database, name และ password

// ** MySQL settings - You can get this info from your web host ** //
/** The name of the database for WordPress */
define('DB_NAME', 'wordpress');


/** MySQL database username */
define('DB_USER', 'wordpressuser');


/** MySQL database password */ define('DB_PASSWORD', 'password');

Save และออก

ขั้นที่ 3. Copy File

สำหรับ Ubuntu

sudo rsync -avP ~/wordpress/ /var/www/

cd /var/www/

sudo chown username:www-data /var/www -R

sudo chmod g+w /var/www -R

สำหรับ Centos

sudo cp -r ~/wordpress/* /var/www/html

sudo yum install php-gd

sudo service httpd restart

จากนั้นเข้าเว็บไซต์ตามด้วย /wp-admin/install.php หรือ IP address ตามด้วย /wp-admin/install.php

ติดตั้ง GUI บน CentOs 6.4

CentOS GUI คือ CentOS โหมดกราฟฟิต ที่มีรูปภาพและสัญลักษณ์ในการใช้งานแทนคำสั่ง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่ใช้เมาส์ก็สามารถทำงานได้ โดย GUI ของ CentOS มีหลายแบบ เช่น KDE, GNOME, X Windows และอื่นๆ

KDE ย่อมาจาก K Desktop Environment ซึ่งเป็นระบบเดสก์ท็อปกราฟฟิกส์ มีลักษณะคล้าย Gnome ทั้งรูปภาพ สัญลักษณ์ และเมนู แต่มีหน้าตา Inerface ที่สวยงาม และใช้พลังงานมากกว่า

Gnome ผลิตออกมาช้ากว่า KDE ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้รวดเร็ว และเรียบง่าย โปรแกรมมีให้เลือกมากมาย เหมาะกับมือใหม่เพราะปรับแต่งไม่ยุ่งยาก

วิธีติดตั้ง KDE และ Gnome บน CentOs 6.4

ขั้นที่ 1. ให้ Login เข้า CentOs 6.4 ด้วย Putty

ขั้นที่ 2. ถ้าต้องการติดตั้งด้วย KDE ให้ใช้คำสั่ง

yum groupinstall “X Window System” “KDE (K Desktop Environment)”

ถ้าต้องการติดตั้งด้วย Gnome ให้ใช้คำสั่ง

yum groupinstall "X Window System" "GNOME Desktop Environment"

ขั้นที่ 3. ให้ติดตั้ง Tiger VNC Server บน Centos

yum -y install vnc-server

yum install tigervnc-server

ขั้นที่ 4. ตั้ง username และ password

ใช้ useradd ตามด้วยชื่อ username เช่น abc ให้ใส่ useradd abc

และยืนยันอีกครั้งด้วย su abc

ทำตามคำสั่งดังนี้ สมมุติตั้งชื่อเป็น abc

useradd abc

su abc

cd ~

mkdir .vnc cd .vnc/

vncpasswd

ให้ใส่ password และยืนยันตรง

Password:

Verify:

แล้วกด enter

ขั้นที่ 5. ตั้งค่า VNC configuration

cat /etc/sysconfig/vncservers

ขั้นที่ 6. เริ่มต้น VNC Server

chkconfig vncserver on

/etc/init.d/vncserver start

ขั้นที่ 7. ปิดระบบ iptables

/etc/init.d/iptables stop

chkconfig iptables off

ขี้นที่ 8. เชื่อมต่อ VNC Server สามารถ Download ได้ที่ www.realvnc.com/download/viewer/

จากนั้น login แล้วใช้งานได้เลย

วิธีติดตั้ง Ubuntu Desktop Xubuntu Kubuntu บน Ubuntu Server

Ubuntu คือ ระบบปฏิบัติการณ์ชนิดหนึ่งคล้ายๆ กับ Windows แต่เป็นลิขสิทธิ์เปิด (Open Source) ที่ใครๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้ในระบบ Linux Distribution โดยลักษณะที่โดดเด่นคือการใช้งานที่แตกต่างกันระหว่าง Ubuntu Server และ Ubuntu Desktop

Ubuntu Server คือ ลักษณะการทำงานโดยใช้คำสั่ง เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อเป็นเซิร์ฟเวอร์ให้บริการเว็บไซต์ และเครือข่าย

Ubuntu Desktop คือ เป็นระบบ Graphic ลักษณะการใช้งานเหมือน Windows เหมาะกับงานทั่วไป

การติดตั้ง Ubuntu Desktop

เมื่อเราติดตั้ง Ubuntu Desktop บน Server แล้วเราสามารถใช้งานโดยการ Remote Desktop Connection บน Windows ได้เลย

ขั้นที่ 1. เปิด Putty แล้ว Login เข้า Ubuntu Server

ขั้นที่ 2. ให้ Update ข้อมูลใน Ubuntu Server ของคุณให้เรียบร้อย (ใส่คำสังทีละบรรทัด)

sudo apt-get update

sudo apt-get upgrade

ขั้นที่ 3. ติดตั้ง Ubuntu Desktop

sudo apt-get install ubuntu-desktop

ถ้าคุณไม่ต้องการ Add on ใดๆมาให้ในขณะเริ่มตนสามารถใช้คำสั่งนี้

sudo apt-get install --no-install-recommends ubuntu-desktop

ถ้าต้องการติดตั้ง Xubuntu แทน ให้ใช้คำสั่งนี้

sudo apt-get install xubuntu-desktop

ถ้าต้องการติดตั้ง Kubuntu แทน ให้ใช้คำสั่งนี้

sudo apt-get install kubuntu-desktop

ขั้นที่ 4. ให้ติดตั้ง xrdp เพื่อที่จะสามารถ Remote Desktop Connection ได้

sudo apt-get install xrdp

ขั้นที่ 5. ให้ Restart Ubuntu Desktop

sudo reboot

จากนั้นคุณสามารถ Remote Desktop Connection จาก Windows ของคุณได้เลย

วิธีใช้ Putty ในการป้องคำสั่งบน Server ของคุณ

Putty เป็นโปรแกรมชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อข้อมูลด้วยระบบ SSH ที่มีความปลอดภัยสูงกับ Linux Server ของคุณ

Secure Shell (SSH) คือ Protocol ที่ออกแบบมาสำหรับเชื่อมต่อข้อมูลในเครือข่ายได้อย่างปลอดภัย เพราะมีการเข้ารหัสในการสื่อสาร

นี่คือขั้นตอนที่ง่ายในการใช้งาน Putty

ขั้นที่ 1. ให้ Download โปรแกรม Putty.exe มาก่อน

ขั้นที่ 2. ดับเบิลคลิกที่โปรแกรม จะปรากฎดังรูป


 

ขั้นที่ 3. ใส่ IP address

ขั้นที่ 4. ปล่อยให้ค่า Port เป็น 22 - ค่าเริ่มต้น

ขั้นที่ 5. ดูว่า Connection type เป็น SSH หรือไม่

ขั้นที่ 6. คลิกที่ปุ่ม Open

หากคุณเข้า Server เป็นครั้งแรกจะมีข้อความเตือนจาก PuTTy Security Alert ขึ้นมา ให้กด yes

เมื่อเข้าสู่หน้า login จะมีบรรทัดให้ใส่ username กับ password